โลกนี้ใช้หน่วยวัดอะไรกันบ้าง
ข้อมูลเบื้องต้น
หน่วยวัดระบบเมตริก (Metric system) เช่น กิโลกรัม กิโลเมตร เมตร เซ็นติเมตร มิลลิเมตร เป็นต้น
หน่วยวัดระบบอิมพีเรียล (Imperial System) เช่น ออนซ์ ปอนด์ นิ้ว ฟุต หลา ไมล์ เป็นต้น
ปัจุบันมีเพียง สหรัฐอเมริกา พม่า และประเทศไลบีเรีย ที่ยังคงใช้หน่วยวัดระบบอิมพีเรียลเป็นหลักอยู่ แต่พม่าและไลบีเรีย ก็มีการใช้ระบบเมตริก ควบคู่อยู่ด้วย และมีความพยายามจะเปลี่ยนมาใช้ระบบเมตริกเช่นกัน มีเพียงสหรัฐอเมริกาที่มีการใช้ระบบอิมพีเรียลอย่างเป็นทางการ และไม่มีทีท่าว่าจะปรับเปลี่ยนในเวลาอันใกล้นี้ แม้ว่าในปี 1975 สหรัฐอเมริกาเคยคิดที่จะปรับเปลี่ยนระบบหน่วยวัด เพื่อให้การสื่อสารทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม กับประเทศอื่นๆ ทำได้ง่ายขึ้นก็ตาม
ในประเทศอังกฤษแม้ว่าจะเปลี่ยนมาใช้ระบบเมตริกมากว่า 200 ปีแล้ว แต่ในปัจจุบันบางส่วนก็ยังพบว่ามีการใช้ควบคู่กันทั้ง 2 ระบบ และนิยมใช้หน่วยความเร็วเป็น ไมล์ต่อชั่งโมง มากกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง และนิยมใช้ ปอนด์ แกลลอน สำหรับหน่วยวัดปริมาณ
ถามว่าทำไมถึงยังคงมีการใช้ระบบอิมพีเรียล ในบางส่วนแม้ว่ามีการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบเมตริกอย่างเป็นทางการแล้ว ลองมาวิเคราะห์และเปรียบเทียบตามหัวข้อดังนี้
1. ระบบไหนมีเหตุมีผล และเหมาะสมมากกว่ากัน

- ระบบเมตริก
ฝรั่งเศษพัฒนาระบบเมตริกตั้งแต่ก่อนปี 1800 โดยใช้หน่วยวัดความยาวเป็นเมตร หน่วยวัดน้ำหนักเป็นกรัม ใช้ลิตรสำหรับการวัดปริมาณ โดยมีคำนำหน้าหน่วยสำหรับหน่วยการวัดที่ใหญ่ขึ้น หรือเล็กลง เช่น กิโลเมตร คือ 1000 เมตร เซ็นติเมตร คือ 0.01 เมตร เป็นตัว เช่นเดียวกับหน่วยวัดน้ำหนัก หรือปริมาณ ก็มีคำนำหน้าหน่วยเช่นเดียวกัน
- ระบบอิมพีเรียล
อิมพีเรียลใช้หน่วยวัดความยาวเป็น นิ้ว ฟุต หลา ไมล์ หน่วยวัดน้ำหนักเป็น ออนซ์ ปอนด์ ส่วนหน่วยวัดปริมาณเป็น แกลลอน เป็นต้น ซึ่งระบบอิมพีเรียลนั้นไม่ได้ใช้ระบบเลขฐาน 10
- ความยาว 12 นิ้วเท่ากับ 1 ฟุต, 3 ฟุตเป็น 1 หลา
- น้ำหนัก 16 ออนซ์เท่ากับ 1 ปอนด์
- ปริมาณ 1 แกลลอน เท่ากับ 8 ไพน์
จะเห็นว่าระบบอิมพีเรียลมีความยุ่งยากในการคิดคำนวน เนื่องจากไม่ได้ใช้ระบบเลขฐาน 10 อีกทั้งระบบเมตริกจะง่ายกว่ามากในการเรียกชื่อ เนื่องจากใช้การเติมคำนำหน้าหน่วย อีกทั้ง 1 ลูกบาศก์เซนติเมตรเท่ากับ 1 มิลลิลิตร น้ำ 1 ลิตรมีน้ำหนักเท่ากับ 1 กิโลกรัม จะเห็นได้ว่าการแปลงข้ามหน่วยจากความยาวมาเป็นน้ำหนัก หรือจากปริมาณมาเป็นน้ำหนัก สามารถทำได้ง่ายมาก
ระบบเมตริกดูจะมีเหตุมีผล และเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
2.ระบบไหนเรียนรู้ได้ง่ายกว่ากัน

สำหรับหน่วยความสูง (ความยาว) ของคน ปกติเรานิยมเรียกเป็นหน่วยเมตริกมากกว่า เช่น ชายคนนั้นสูง 165 ซม. เราจะพอนึกภาพออกว่าสูงประมาณไหน สูง หรือ เตี้ยกว่าเราเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าชายคนนั้นสูง 5 ฟุต 5 นิ้ว ทีนี้จะนึกยากแล้วว่าสูงประมาณไหนกันแน่
ระบบตัวเลขที่เราเรียนกันปกติทั่วไปจะเป็นระบบฐานสิบ คือนับ 1 ถึง 10 เมื่อครบ 10 แล้วเพิ่มตัวเลขในหลักต่อไป เป็น 10 จากนั้นปรับตัวเลขขึ้นไปเรื่อยๆ จากหลักหน่วยเป็นหลักสิบ หลักร้อย หลักพัน ฯลฯ แต่ในระบบอิมพีเรียลโดยมากจะไม่เป็นระบบเลขฐานสิบ ทำให้การนับ และการทำความเข้าในจะยากกว่า
3.ระบบไหนใช้คำนวนง่ายกว่ากัน
เราสามารถแปลงหน่วยจาก 2.5 กิโลเมตร เป็น 2500 เมตร ได้โดยง่าย แต่ถ้าต้องการแปลง 0.5 ไมล์เป็นหลา แบบนี้ยากกว่าแน่นอน หรือ 3 กิโลกรัม เท่ากับ 3,000 กรัม ง่ายๆ ตรงไปตรงมา แต่ถ้าถามว่าหนัก 3 ปอนด์ เท่ากับกี่ ออนซ์ แบบนี้คงต้องขอเวลาสักครู่ในการคำนวน จะเห็นว่าการแปลงจากหน่วยเล็กเป็นหน่วยใหญ่ หรือการแปลงหน่วยใหญ่เป้นหน่วยเล็ก ในระบบเมตริก เราก็แค่เลื่อนตำแหน่งจุดทศนิยม
4.ชาวโลกส่วนใหญ่ใช้ระบบไหนกัน
ถ้านับตามจำนวนประชากรแล้ว ส่วนใหญ่ใช้ระบบเมตริกมากกว่า แต่ในอเมริกายังนิยมใช้ระบบอิมพีเรียล ทั้งที่จริงหากสามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ระบเมตริก จะทำให้การสื่อสารกับชาติอื่นทำได้ง่ายขึ้น เข้าใจกันง่ายกว่า อาจะด้วยความเคยชินที่ใช้มานาน ถ้าคุณบอกชาวอเมริกันว่า วันนี้อากาศร้อนมากถึง 40 องศาเซลเซียส เค้าอาจจะทำหน้างงๆ แต่ถ้าบอกว่า วันนี้อากาศร้อนมากถึง 104 องศาฟาเรนไฮต์ คนอเมริกาจะเข้าใจได้ทันที
สรุป
หากทั้งโลกเราใช้ระบบหน่วยแบบเดียวกันทั้งหมด ก็คงจะดีสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น เข้าใจกันได้ง่ายกว่า และแม้ดูเหมือนว่าระบบเมตริกจะมีข้อดีมากมาย แต่ระบบอิมพีเรียล ก็ยังคงถูกใช้ในบางประเทศอย่างเหนียวแน่น และก็ถูกใช้งานในหลายๆ ส่วน ร่วมกับระบบเมตริก แม้แต่กาารบอกขนาดร่างการของเรา ยังต้องผสมกันทั้งสองระบบ เช่น สูง 165 เซ็นติเมตร เอว 28 นิ้ว หน้าอก 34 นิ้ว เป็นต้น
Cr: https://engineerine.com/why-is-imperial-system-still-used/